Sunday, October 10, 2010

บทบาทของโดเมนและฟอเรสต์

                การเปลี่ยนโหมดของโดเมนและฟอเรสต์ จัดเป็นคุณสมบัติที่สำคัญข้อหนึ่งของ Windows Server 2003 ที่จะช่วยเพิ่มความสามารถในการให้บริการในระบบเน็ตเวิร์คขององค์กร ดังนั้นควรจำไว้ว่าการเปลี่ยนโหมดของฟอเรสต์และโดเมนนั้นมีจัดที่สำคัญคือ เพื่อสอดคล้องกับแนวทางการบริหารระบบของผู้ดูแลใน Windows Server 2003 นั้นมีรูปแบบของโหมดที่ใช้งานทั้งสิ้น 4 รูปแบบประกอบด้วย
                Windows 2000 Mixed Mode
                เป็นโหมดที่มีเครื่องโดเมนคอนโทรลเลอร์ทั้ง Windows 2000, Windows Server 2003 และ Backup Domain Controller (BDC) ของ Windows NT4 ใช้งานร่วมกันซึ่งไม่สามารถใช้งานในส่วนของกลุ่มแบบ Universal Group การทำ Nesting Group และ SID history capabilities
          Windows 2000 Native Mode
                ในโหมดนี้จะมีเครื่องโดเมนคอนโทรลเลอร์ที่เป็น Windows 2000 กับ Windows Server 2003 ทำงานร่วมกัน และสามารถใช้งานกลุ่มแบบ Universal Group การทำ Nesting Group และ SID history capabilities ได้ แต่จะไม่สามารถใช้คุณสมบัติอื่นๆที่มีเพิ่มเติมใน Windows Server 2003
         Windows Server 2003
                เครื่องโดเมนคอนโทรลเลอร์ทุกตัวจะเป็น Windows Server 2003 และสามารถใช้งานได้ครบทุกคุณสมบัติที่มีในรุ่นก่อนและคุณสมบัติที่เพิ่มเติมเข้ามาใหม่ จัดเป็นโหมดที่อยู่สูงสุด
                Windows 2003 Interrim Mode
                เป็นโหมดที่มีเฉพาะเครื่องโดเมนคอนโทรลเลอร์ที่เป็น Windows Server 2003 กับ BDC ของ Windows NT4 เท่านั้นมีคุณสมบัติเท่ากับใน Windows NT
โดยปกติแล้วเมื่อเราติดตั้ง Active Directory ของ Windows Server 2003 เรียบร้อยจะพบว่า รูปแบบการทำงานของระดับฟอเรสต์จะถูกกำหนดให้สอดคล้องกับของ Windows 2000 Server ซึ่งถ้าหากมีการใช้งานในบางโดเมนเป็น              
Windows Server 2003 ได้ดังนั้นเราต้องปรับให้ทุกโดเมนเป็น Active Directory ของ Windows Server 2003 ก่อนเราจึงปรับโครงสร้างของฟอเรสต์ขึ้นมาได้ ซึ่งประโยชน์ที่จะได้รับ ยกตัวอย่างเช่น การทรัสต์ระหว่างโดเมนที่อยู่คนละฟอเรสต์ เป็นต้น